บทสัมภาษณ์นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรบริหาร และเพชรสองผู้สถาปนา(Cover Story) | นิตยสารอะชีฟ ฉบับพฤษภาคม 2565

ที่ผ่านมาคุณพชรรัชต์ (กานต์) กุศล เคยใช้สะพานไม้เพียงอย่างเดียวในการดำเนินชีวิต แต่เมื่อพบว่าแท้จริงแล้วเธอสามารถสร้างสะพานหินที่แข็งแรงกว่าเป็นเส้นทางใหม่ให้กับชีวิตได้ จึงไม่รั้งรอที่จะลงมือทำ “อัพไลน์เป็นคนเล่าเรื่องสะพานไม้ให้ฟังค่ะ บอกว่าเราเดินข้ามสะพานไม้เหมือนกัน คือไปทำงานบ้านกับโรงพยาบาลทุกวัน ที่ต่างกันคือทุกครั้งที่ข้ามสะพานไม้ อัพไลน์จะพกก้อนหินแล้วหย่อนไว้วันละก้อนสองก้อน วันไหนสะพานไม้พังลงก็ยังมีสะพานหินที่สร้างไว้ ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าสะพานเดิมด้วย”

แม้เรื่องสะพานไม้จะโดนใจแต่คุณกานต์ก็ยังไม่ตัดสินใจ ด้วยมองว่าธุรกิจแอมเวย์ที่จะมาเป็นสะพานหินนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถนัด จนเมื่อมีความเครียดจากงานประจำ เธอจึงนึกถึงเรื่องนี้อีกครั้งโดยคิดว่าแค่ลองไปฟังไม่น่ามีอะไรเสียหาย...และการตัดสินใจครั้งนั้นคือวันเปลี่ยนชีวิตของเธอ “ประโยคที่บอกว่า หนึ่งองศาความคิดที่แตกต่าง การเลือกใช้เครื่องมือในการสร้างชีวิตที่แตกต่าง ทำให้แต่ละคนได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันนั่นเป็นจุดเปิดใจค่ะ พอฟังจบก็ถามเลยว่า อยากสำเร็จในธุรกิจนี้ต้องทำยังไง คำตอบที่ได้คือ ต้องจัดการตัวเองในทุกเรื่องเพื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ อีกประโยคที่จำได้แม่นจนถึงวันนี้คือ ชีวิตจะดีได้ต้องตั้งใจค่ะ (ยิ้ม)”

คุณกานต์จึงเริ่มลงมือจัดการกับชีวิตตัวเองซึ่งนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิต และการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นไม่ง่ายเลยที่จะก้าวสู่ธุรกิจตามที่คาดหวังไว้ คุณกานต์ต้องพบปัญหามากมายและบอกเล่าความรู้สึกของเธอตอนนั้น “กดดันค่ะ แต่กลับรู้สึกว่าปัญหาและอุปสรรคเป็นสิ่งที่คัดกรองจิตใจ หากข้ามผ่านได้จะทำให้เราเติบโตขึ้น” โชคดีที่เธอเปลี่ยนความกดดันให้เป็นพลังบวกในการมุ่งมั่นสร้างชีวิต “เปลี่ยนทัศนคติเลยค่ะ ตอนแรกแค่คิดจะสร้างสะพานเพิ่ม ทีนี้เร่งทำเลย ตั้งใจ มุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จและพิสูจน์แผนการตลาดว่าทำจริงได้จริง พอได้เป็นระดับเข็มทองก็ลาออกเลยค่ะ”

จากที่เพียงคิดจะสร้างทางเลือกเพิ่มกลับกลายเป็นการสร้างธุรกิจที่ให้อิสรภาพและสมดุลชีวิตแบบไม่คาดฝัน อยู่ในสังคมที่ดี มีความสุข ทั้งที่เคยคิดว่าธุรกิจนี้ไม่ถนัด แต่คุณกานต์ก็เปลี่ยนความคิดแบบพลิกผันเมื่อพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ทุกอย่างต้องเรียนรู้และทำให้สำเร็จได้ถ้าตั้งใจจริง “หลังก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือทัศนคติค่ะ เราถูกขัดเกลา ถูกพัฒนา จนพบว่าทุกอาชีพมีความยากง่ายแตกต่างกัน ถ้าเราเลือกที่จะทำและตั้งใจก็ไม่มีอะไรยากเกินไป ข้อดีของธุรกิจนี้คือมีอัพไลน์และทีมคอยดูแลตลอดเส้นทาง ตอนทำใหม่ๆ พอถูกปฏิเสธเคยคิดจะเลิกค่ะ แต่ได้อัพไลน์ประคับประคอง ให้ข้อคิด ให้กำลังใจและไม่ขาดบรรยากาศ ทำให้เดินต่อมาได้จนมีวันนี้”

อีกสิ่งสำคัญที่นำเธอมาสู่ความสำเร็จคือการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง “ธุรกิจนี้แปลกค่ะ คนส่วนใหญ่พอตัดสินใจทำปุ๊บจะเริ่มขายของก่อน (หัวเราะ) ที่จริงนี่เป็นธุรกิจแห่งการเรียนรู้ เรียนไปทำไป ถึงตอนนี้ก็ยังเรียนรู้ตลอดเวลาค่ะ อย่างช่วงโควิดต้องปรับรูปแบบมาเป็นออนไลน์ ตอนแรกกังวลค่ะเพราะตัวเองทำออนไลน์ไม่เป็นเลย แต่พอตั้งสติได้ก็คิดว่าทุกอย่างเรียนรู้ได้ เราต้องเริ่มต้นที่ตัวเอง เรียนรู้ พัฒนา เปลี่ยนแปลง ทำตัวเองให้เป็นต้นแบบขององค์กร เพราะตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน ดังนั้นต้องทำเป็นตัวอย่างค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ทั้งหมดอยู่ที่คุณเลือก ถ้าคุณเลือกธุรกิจนี้เป็นอาชีพหลักและทำแบบมืออาชีพ คุณก็จะได้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการ ทุกอาชีพมีเงื่อนไขความสำเร็จที่แตกต่างกัน ในธุรกิจนี้เพียงคุณเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ทำงานต่อเนื่อง ชัดเจนกับเป้าหมาย ไม่ว่าปัญหาอุปสรรคหรือวิกฤติอะไรก็หยุดเราไม่ได้ ในงานอื่นพอมีวิกฤติทุกอย่างจะชะลอตัว แต่ธุรกิจนี้ไม่ใช่ค่ะ คุณสามารถเติบโตได้ในทุกสถานการณ์ ขอเพียงตั้งใจจริงและเชื่อมั่นในตัวเอง ทุกคนสำเร็จในธุรกิจนี้ได้แน่นอน (ยิ้ม)

ลำดับขั้นความสำเร็จ

หากใครสักคนจะตัดสินใจเริ่มต้นทำธุรกิจ คุณคิดว่าเขาควรมีอะไรบ้าง หนึ่ง วุฒิภาวะที่เหมาะสม อย่างน้อยก็ควรอยู่ในวัยทำงาน สอง สินทรัพย์สำหรับการลงทุน และถ้าจะให้ดียุคนี้ควรมียานพาหนะจะได้เดินทางคล่องตัว ทั้งหมดนี้คือ ‘อย่างน้อย’ แต่อย่างน้อยที่ว่านี้คือ สิ่งที่ทั้งคุณกิระศิษฎ์ (ณิว) ภัทรฐิตินันท์ และคุณวนันธร (เบ็น) กิจพิศุทธิ์...ไม่มี!

ทั้งคู่เริ่มต้นในวันที่ยังเป็นนักศึกษาเพราะประทับใจในตัวสินค้าจึงมองเห็นช่องทางการทำธุรกิจ สินทรัพย์ที่มีคือค่าขนมที่ทางบ้านให้ ยานพาหนะที่ใช้เป็นประจำคือรถสาธารณะ มากกว่านั้นคือ ทั้งคู่ยังต้องฝ่าด่านการไม่เห็นด้วยอย่างมากจากครอบครัว แต่เพราะชัดเจนในเป้าหมายและเรียนรู้จนเข้าใจ จึงยืนหยัดฝ่าฟันมาจนถึงวันแห่งความสำเร็จ หลังก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จในระดับเพชร ขณะที่ทุกอย่างในชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ด่านยากอย่างโรคโควิด 19 ก็มาเยือนแบบไม่คาดฝัน คุณเบ็นเล่าว่า “ตอนทำออนไลน์ช่วงแรกจากที่เราเคยเปิด 10 ได้ 9 กลายเป็นเปิด 10 ได้ 2 หรือ 3 ก็เก่งแล้วค่ะ” เธออธิบายต่อว่าเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ ความจดจ่อ การติดตามที่ทำได้ยากกว่า แต่เพราะผ่านประสบการณ์มาไม่น้อย ทุกปัญหาจึงกลายเป็นความท้าทายที่มีไว้พุ่งชน “เราปรับครับ” คุณณิวเล่า “ใช้พาร์ตการทำธุรกิจนำเพราะช่วงนี้หลายคนอยากมีรายได้เพิ่ม เน้นการทำเชิงรุก พูดคุยแบบตัวต่อตัว ปรากฏว่าได้ผลดีกว่า พบผู้นำเร็วกว่า”

มุ่งเน้นการสร้างธุรกิจอย่างมั่นคงมากกว่าการเติบโตแบบวูบวาบ คือแนวทางการทำธุรกิจในช่วงเวลานี้ “ธุรกิจนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิต เราเติบโตไปพร้อมกัน แผนชีวิตและแผนธุรกิจก็ไปในทิศทางเดียวกัน เราอยากมีชีวิตที่มั่นคง นั่นหมายความว่าเราต้องสร้างธุรกิจให้มั่นคงด้วยครับ” ทำงานพื้นฐานและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนก้าวต่อจึงเป็นภารกิจหลักของทั้งคู่ในวันนี้ “เราได้เห็นคนที่เชื่อใจและเดินตามเราสามารถเติบโตขึ้นเป็นเพชรได้ใน 2 ปี นั่นทำให้เรายิ่งมีกำลังใจและยิ่งเชื่อว่า เส้นทางสายนี้โตเร็วได้แต่มักง่ายไม่ได้ ต้องทำงานพื้นฐาน ต้องโฟกัส ถ้าเขาเชื่อและพร้อมจะเดินไปด้วยกัน เราก็พร้อมจะให้แนวทาง คอยอุดรูรั่วและระวังหลังให้ ด้วยแนวทางนี้เราเชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะเราเคยทำได้มาแล้วและเชื่อว่าจะทำได้อีกค่ะ” ความชัดเจน คืออีกหนึ่งคอนเซปต์หลักในการดำเนินธุรกิจ “เราจะใช้วิธีเปิดตรงและชัดเจนค่ะ (หัวเราะ) บอกเลยว่าเราทำธุรกิจแอมเวย์นะ สนใจมาทำด้วยกันมั้ย ซึ่งได้ผลดีเพราะคนส่วนใหญ่จะอยากฟังต่อ เขาจะสงสัยว่าทำไมมั่นใจจัง เราก็จะถามเลยว่ามีทัศนคติยังไงกับธุรกิจนี้ แอนตี้ตรงจุดไหน พอเขาเล่าจบ เราก็ค่อยๆ เคลียร์ไปทีละจุดค่ะ”

จากสองเด็กนักศึกษาที่แทบไม่มีต้นทุนในมือ วันนี้ทั้งคู่ยืนอยู่บนจุดแห่งความสำเร็จ คุณณิวบอกความรู้สึกว่า “รู้สึกว่ามาไกลมากครับ เมื่อก่อนครอบครัวเรายังไม่เปิดใจ แต่ตอนนี้เปิดใจ ภูมิใจ ทั้งหมดนี้เพราะมีความสำเร็จเป็นเครื่องพิสูจน์ ผมคิดว่าจุดเริ่มต้นคือเราต้องมีนิสัยของคนสำเร็จ มีพันธสัญญา (Commitment) มีความตั้งใจ วินัย และความพยายาม คุณสมบัติเหล่านี้เป็นพื้นฐานของทุกความสำเร็จครับ คนเก่งไม่มีวินัยก็กลายเป็นคนธรรมดา คนธรรมดามีวินัยก็กลายเป็นคนเก่งได้ แต่อยู่ในธุรกิจนี้คุณไม่ต้องเก่ง (ยิ้ม) เรามีเครื่องมือที่ดีอยู่แล้ว ขอแค่คุณมีนิสัยของคนสำเร็จ ยืนหยัดต่อสู้ นึกไว้เสมอว่าชีวิตที่ดี ชีวิตที่มีคุณค่ากำลังรออยู่ ต้องรีบผ่านตัวเอง ผ่านสถานการณ์ต่างๆ ไปสู่ความสำเร็จให้ได้ครับ”

เช่นเดียวกับคุณเบ็นที่บอกว่า “ยืนหยัดค่ะ เบ็นคิดว่าการยืนหยัดคือการเคารพตัวเอง เพราะวันที่เลือกธุรกิจนี้ เราเลือกเอง ถ้าเราจะตัดสินใจเลิกเพราะเหตุผลของคนอื่น เบ็นคิดว่ามันไม่แฟร์กับชีวิตเรา เมื่อตัดสินใจเข้ามาแล้ว ขอให้เชื่อมั่น ยืนหยัด ไปให้สุดทาง เราสองคนมาถึงวันนี้ได้เพราะเคารพการตัดสินใจของตัวเองในวันแรก เบ็นเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถมากกว่าเรา และเชื่อว่าถ้าคุณนำความสามารถที่มีมาทุ่มเทกับธุรกิจนี้ มันจะไม่สูญเปล่า คุณจะไปถึงความสำเร็จได้อย่างแน่นอนค่ะ (ยิ้ม)”

ลำดับขั้นความสำเร็จ